เอ็กโซ (เกาหลี: 엑소; อาร์อาร์: Ekso; อักษรโรมัน: Exo, มักเขียน EXO) เป็นบอยแบนด์สัญชาติจีนและเกาหลีใต้ ก่อตั้งขึ้นที่โซล ภายใต้สังกัด SM เอนเตอร์เทนเมนต์ EXO ฟอร์มวงขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 2011 และเปิดตัวในปี 2012 ประกอบด้วยสมาชิกจำนวนเก้าคนคือ ซูโฮ, แบ็กฮย็อน, ชันย็อล, ดี.โอ., ไค, เซฮุน, ซิ่วหมิน, เลย์ และเฉิน พวกเขาเป็นที่รู้จักในเรื่องความแปลกใหม่ของแนวเพลง ซึ่งเป็นที่ยอมรับและถูกชื่นชมในการนำดนตรีที่หลากหลายเข้ามาใช้ในการผลิตผลงาน ไม่ว่าจะเป็น ป็อป, ฮิปฮอป, อาร์แอนด์บี, อีดีเอ็ม รวมถึง เฮาส์, แทร็ป และ ซินท์ป็อป EXO ทำการแสดงดนตรีในภาษาเกาหลี, แมนดาริน และญี่ปุ่น ในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก พวกเขาถูกจัดอันดับให้เป็นที่สุดของกลุ่มคนผู้มีชื่อเสียงในการจัดอันดับผู้ทรงอิทธิพลในเกาหลีโดยนิตยสารฟอบส์ ในปี 2014 และในปี 2015 EXO ก็ถูกยกย่องให้เป็น "บอยแบนด์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก" โดยสื่อสาธารณะ
เดิมที EXO เปิดตัวด้วยสมาชิกทั้งหมด 12 คน แยกเป็นสองกลุ่มย่อย คือ เอ็กโซ-เค (EXO-K) (ซูโฮ, แบ็กฮย็อน, ชันย็อล, ดี.โอ., ไค, เซฮุน) และ เอ็กโซ-เอ็ม (EXO-M) (ซิ่วหมิน, เลย์, เฉิน และอดีตสมาชิก คริส ลู่หาน เทา) โดยมีจุดมุ่งหมายเดิมคือให้โปรโมทแยกกันระหว่างเกาหลีใต้-จีน อย่างไรก็ตาม ครั้งสุดท้ายที่มีการแยกกันโปรโมทเพลงคือในช่วงปี ค.ศ. 2014 หลังจากนั้นเป็นต้นมา EXO ก็ได้ปฏิบัติงานในฐานะวงเดี่ยวพร้อมทั้งทำการแสดงและปล่อยผลงานในหลากหลายภาษามาโดยตลอด
อัลบั้มเต็มชุดแรกของ EXO 'XOXO' (ปี 2013) กับซิงเกิลยอดฮิตอย่าง "'Growl" ได้สร้างชื่อเสียงเป็นปรากฏการณ์ให้กับวงอย่างมากมาย EXO ชนะรางวัลแดซังในงาน Golden Disc Awards ครั้งที่ 28 และรางวัล Album of the Year (อัลบั้มแห่งปี) ในงาน Mnet Asian Music Awards ครั้งที่ 15 ตัวอัลบั้มสามารถทำยอดขายได้ถึงหนึ่งล้านชุด ส่งผลให้ EXO เป็นกลุ่มไอดอลที่ทำยอดขายได้ดีที่สุดในรอบ 12 ปี รวมถึงอัลบั้มและผลงานถัด ๆ มา พวกเขาก็ยังสามารถรักษายอดขายไว้ได้อย่างต่อเนื่อง อัลบั้มเต็มชุดที่สอง 'EXODUS' (ปี 2015) และอัลบั้มชุดที่สามของพวกเขา 'EX'ACT' (ปี 2016) ก็ยังสามารถจำหน่ายได้หลักล้านชุดเช่นเดียวกัน ผลงานอัลบั้มนี้รวมถึงอีพี Overdose (ปี 2014) ของพวกเขาชนะรางวัลมากมายไม่ว่าจะเป็นรางวัลแดซัง สาขาอัลบั้ม สามครั้งติดต่อกันในงาน Golden Disc Awards ครั้งที่ 29, 30 และ 31ชนะรางวัล Album of the Year สามครั้งติดในงาน Mnet Asian Music Awards ครั้งที่ 16, 17 และ 18 เช่นเดียวกันกับรางวัลแดซังในงานประกาศรางวัล Seoul Music Awards ครั้งที่ 24, 25 และ 26 อัลบั้มเต็มชุดที่สี่ของพวกเขา 'The War (ปี 2017) กลายเป็นอัลบั้มที่สามารถทำยอดจำหน่ายได้มากที่สุดของ EXO ด้วยตัวเลขกว่า 1 ล้าน 6 แสน ชุด ในประเทศเกาหลีใต้ EXO ยังคงขึ้นรับรางวัล Artist of the Year (ศิลปินแห่งปี) เป็นปีที่สอง ในงาน Melon Music Awards ครั้งที่ 9 และสามารถรักษามาตรฐานของตนโดยมุ่งหน้าทำลายสถิติของตนเองด้วยการคว้ารางวัล Album of the Year ได้เป็นปีที่ 5 ได้ในงานประกาศรางวัล Mnet Asian Music Awards ครั้งที่ 19 นอกจากนั้นเองอัลบั้ม The War ก็ยังเป็นอัลบั้มที่ขึ้นอันดับสูงสุดบนชาร์ต บิลบอร์ด 200 ของพวกเขา
หัวหน้าของกลุ่ม EXO-K ซูโฮ เป็นคนแรกที่ได้เข้ามารับการฝึกฝนในค่าย SM เอนเตอร์เทนเมนต์ หลังจากออดิชั่นผ่านในระบบแคสติ้งเมื่อปี ค.ศ. 2006 ในปีถัดมา ไค ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากทางครอบครัวในเส้นทางนี้เองก็ได้ชนะการออดิชั่นในการประกวด SM Youth Best Contest และได้เซ็นสัญญาเข้ามาในทันที เช่นเดียวกับ ชันย็อล ซึ่งได้อันดับที่ 2 ในการประกวด Smart Model Contest พร้อมทั้ง เซฮุน ที่ถูกพบและทาบทามโดยแมวมองของทางค่ายและได้รับการแคสติ้งเข้ามาภายในบริษัท ภายในปี 2008 และในปี 2010 ดี.โอ. ซึ่งได้รับข้อเสนอในการเซ็นสัญญาจากทางค่ายหลังจากที่เห็นคุณสมบัติในตัวเขาจากการออดิชั่นก็ได้เข้าสังกัดเป็นลำดับถัดมา โดยสมาชิกคนสุดท้ายของฝั่ง EXO-K ก็คือ แบ็กฮย็อน ซึ่งได้เข้ามาในบริษัทด้วยระบบแคสติ้งภายในปี 2011 และใช้เวลาฝึกฝนอยู่ประมาณเพียงหนึ่งปีเท่านั้นจึงเดบิวต์สู่สายตาสาธารณชน สำหรับฝั่ง EXO-M คริส ได้ผ่านการออดิชั่น Global Audition จากประเทศแคนาดาในปี ค.ศ. 2008 เขาได้ย้ายมาอยู่ที่ประเทศเกาหลีใต้เพื่อฝึกฝนเพื่อเป็นศิลปิน เช่นเดียวกันในปีเดียวกันนั้นเอง เลย์ ก็ได้ผ่านการออดิชั่นจากฉางชาและย้ายมาในประเทศเกาหลี ในขณะที่ ซิ่วหมิน เองก็ได้เข้าร่วมการแข่งขันพร้อมกันกับเพื่อนของเขาและชนะอันดับที่ 2 ในการออดิชั่นได้ในปี 2010 ลู่หาน นั้นถูกทาบทามเข้ามาในสังกัดโดยตัวแทนของทางค่ายในขณะที่เขาเดินเที่ยวอยู่ในมย็องดงและผ่านการออดิชั่นเข้ามาในเวลาถัดมา เช่นเดียวกับ เทา ซึ่งถูกทาบทามจากรายการโชว์ทักษะพิเศษ และสมาชิกคนสุดท้ายซึ่งก็คือ เฉิน เขาผ่านเข้ามาเป็นหนึ่งในสมาชิกได้โดยผ่านการแคสติ้งจากทางค่ายในปี ค.ศ. 2011
สมาชิก เลย์ ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการแข่งขันจัดหาศิลปินในประเทศจีน Idol Producer เกี่ยวกับการก่อตั้งวง EXO ว่า จากเด็กฝึกหัดทั้งหมด 120 คน 20 คนนั้นตกรอบเหลือเพียง 100 คน 60 คนเป็นผู้ถูกเลือกหลังจากนั้นก็มีการทดสอบคัดเหลือผู้ที่มีคุณสมบัติเพียง 24 คนเท่านั้น ในแต่ละอาทิตย์จะมีการทดสอบซึ่งจะมีหนึ่งคนถูกตัดออกเสมอ จนสุดท้ายก็เหลือเพียงเมมเบอร์ 12 คนที่ได้กลายเป็น EXO
โดยในเดือนมกราคม 2011 อี ซู-มัน ได้ประกาศว่าจะมีการเปิดตัวบอยแบนด์กลุ่มใหม่ในเดือนมีนาคม-เมษายน ปี 2011ซึ่งรูปของสมาชิก 7 คนที่ได้ใช้ชื่อกลุ่มว่า M1 ขณะที่กำลังซ้อมเต้นอยู่ได้รั่วไหลทางสื่อออนไลน์ ต่อมาในเดือนพฤษภาคม 2011 อี ซู-มัน ได้พูดถึงวงดังกล่าวกับกระแสธุรกิจฮันรยูในการสัมมนา ณ มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ซึ่งในการสัมมนาครั้งนั้นเอง เขาได้อธิบายเหตุผลในการแบ่งกลุ่มดังกล่าวเป็น 2 กลุ่มย่อย คือ M1 และ M2 โดยจะทำการโปรโมทด้วยเพลงเดียวกันทั้งในเกาหลีและจีน ซึ่งนายอีเองได้วางแผนไว้ว่าจะเปิดตัววงดังกล่าวได้ในเดือนพฤษภาคม 2011 แต่การเปิดตัวต้องล่าช้าออกไป รวมทั้งไม่มีข่าวคราวของวงดังกล่าวจนถึงเดือนตุลาคม 2011 เมื่อถึงเดือนธันวาคม ปี 2011 ทางกลุ่มได้ถูกเปิดตัวภายใต้ใช้ชื่อว่า EXO (เอ็กโซ) พร้อมกับสมาชิก 12 คน โดยมีการเผยแพร่คลิปทีเซอร์ที่อัปโหลดผ่านในยูทูบทั้งหมด 23 คลิป ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2011 จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2012เป็นการเปิดตัว โดยที่ ไค, เฉิน รวมถึงอดีตสมาชิกอย่าง ลู่หาน และ เทา เป็นสมาชิก 4 คนแรกที่ได้ปรากฏตัวต่อสาธารณชนครั้งแรกในรายการ Gayo Daejun ของสถานีโทรทัศน์ SBS ในวันที่ 29 ธันวาคม 2011
EXO-K และ EXO-M ได้ปล่อยซิงเกิลเปิดตัว MAMA ในวันที่ 8 เมษายนตามมาด้วยการปล่อยอีพี MAMA ในวันที่ 9 เมษายน โดยในวันก่อนหน้านั้น EXO-K ได้มีการแสดงเปิดตัวในรายการ ดิ มิวสิก เทรนด์ ในขณะที่ EXO-M ก็ได้แสดงในงาน China's 12th Yinyue Fengyun Bang Awards ในวันเดียวกัน หลายวันถัดมา เพลงดังกล่าวก็อยู่ในอันดับที่ 1 ของเว็บไซต์เพลงออนไลน์ และชาร์ตเพลงในจีนโดยอัลบั้มของ EXO-M อยู่ในอันดับที่ 2 บน ซินา อัลบั้ม ชาร์ต ของจีน ,อันดับที่ 5 บน กาอน ซิงเกิล ชาร์ต ของเกาหลีใต้ และอันดับที่ 12 บน บิลบอร์ด เวิลด์ อัลบั้ม ชาร์ตส่วนอัลบั้มของ EXO-K อยู่ในอันดับที่ 1 บน กาอน ซิงเกิล ชาร์ต
และอันดับที่ 8 บน บิลบอร์ด เวิลด์ อัลบั้ม ชาร์ตในขณะที่มิวสิกวีดีโอ MAMA ของ EXO-M อยู่ในอันดับที่ 1 ของเว็บสตรีมมิงของจีน ส่วนของ EXO-K ก็อยู่ในอันดับที่ 7 บน ยูทูบ โกลบอล ชาร์ต
31 พฤษภาคม 2013 EXO comeback เพลง Wolf ซึ่งเป็นเพลงจากอัลบั้มเต็มอัลบั้มแรก XOXO หลังจากห่างหายไปนานเกือบ 1 ปี บนเวที M countdown ซึ่งการ comeback ครั้งนี้ EXO-K และ EXO-M ได้กลับมารวมตัวกันทั้ง 12 คน
หลังจากจบการโปรโมตเพลง Wolf บนเวที Inkigayo ในวันที่ 21 กรกฎาคม 2013 EXO ได้ comeback อีกครั้ง ในเพลง Growl ซึ่งเป็นเพลงจากอัลบั้ม Repackage XOXO ซึ่งอัลบั้มนี้ได้เพิ่มเพลงใหม่ 3 เพลง ได้แก่ Growl, Lucky, XOXO และในวันที่ 1 สิงหาคม 2013 EXO ได้ comeback stage บนเวที M countdown
และในเดือนกันยายน เป็นช่วงจบการโปรโมตของเพลง Growl บนเวที Music Core ในวันที้ 7 กันยายน 2013 ซึ่งเพลง Growl ได้ความนิยมเป็นอย่างมาก ทำให้ EXO ได้รับรางวัลจากงานต่างๆมากมาย เช่น Song Of The Years หรือ Album Of The Years ซึ่งอัลบั้ม Repackage XOXO มียอดขาย 500,000 ก๊อปปี้ สร้างสถิติกลุ่มศิลปินที่ขายอัลบั้มได้มากที่สุดในปี 2013 จนกระทั่ง EXO comeback อีกครั้ง ในมินิอัลบั้ม Miracle In December โดย โปรโมตเพลง Miracle In December ซึ่งในช่วงแรก จะมีแค่ แบคฮยอน, เฉิน และดีโอ มาโปรโมต ต่อมาก็ได้มี ลู่หาน และ เลย์ มาสมทบด้วย และในช่วงหลังๆการโปรโมตเพลง Miracle In December ก็จะมีเพลง Christmas day เป็น Special satge ซึ่งได้โปรโมตทั้ง 12 คน และในวันที่ 5 ธันวาคม 2013 EXO ได้ comeback stage บนเวที M! Countdown
วันที่ 1 เมษายน 2014 SM เอนเตอร์เทนเมนต์ ได้แถลงว่า EXO จะเริ่มโปรโมทมินิอัลบัมใหม่ในวันที่ 15 พฤษภาคม โดยได้ปล่อยรูปทีเซอร์เดี่ยวออกมา และมีชื่อของเพลงไตเติ้ลว่า "Overdose"
ในวันที่ 15 เมษายน 2014 เวลาราว 20:00 น. EXO ได้แสดง comeback showcase โดยออกอากาศผ่านทาง Samsung Music ในระบบออนไลน์ ซึ่งเป็นที่แรกในการปล่อยมิวสิกวิดีโอเพลง Overdose ให้แฟนๆได้รับชม รวมทั้งได้แสดงเพลงฮิตเก่าๆ ของพวกเขาในโชว์เคสครั้งนี้ด้วย โดย EXO ได้โปรโมทมินิอัลบัมนี้ทั้ง 2 ประเทศ คือ เกาหลีและจีนไปพร้อมกันเช่นเคย แต่ด้วยสถานการณ์ของเกาหลีใต้เรื่องอุบัติเหตุเรือเฟอร์รี่ในเวลานั้น ทำให้ EXO-K ต้องเลื่อนโปรโมทที่เกาหลีใต้ออกไปก่อน ส่วนทางด้าน EXO-M ได้คัมแบ็คที่จีนในวันที่ 19 เมษายน 2014 บนเวที Global Chinese Music โดยในตอนแรกมินิอัลบัมนี้จะถูกปล่อยออนไลน์ในวันที่ 21 เมษายน แต่ถูกเลื่อนออกไปเป็น 7 พฤษภาคม 2014 จึงทำให้เพลง Overdose ของพวกเขาได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากชาร์ตเพลง จนได้รับ "All-kill" ภายในเวลา 7 ชั่วโมงหลังจากที่ปล่อยเพลงออกมา
ในวันที่ 16 มกราคม "Power" ได้ถูกนำไปเปิดในงานแสดงน้ำพุแห่งดูไบ ณ ทะเลสาบบุรจญ์เคาะลีฟะฮ์ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ถือเป็นเพลงสัญชาติเกาหลีเพลงแรกที่ได้ใช้ในงานแสดงนี้ การแสดงน้ำพุจะควบคุมการทำงานด้วยระบบคอมพิวเตอร์ แสดงประกอบดนตรีพร้อมแสงสีอย่างอลังการ สมาชิกวง EXO ทั้ง 7 คน (ไม่รวม ดี.โอ. และ เลย์) เองก็ได้เดินทางเพื่อไปชมงานแสดงครั้งนี้ด้วยเช่นกัน โดยตามกำหนดแล้วนั้นเพลง "Power" จะถูกเปิดในการแสดงน้ำพุนี้ไปจนสิ้นเดือนมกราคม อย่างไรก็ตามกำหนดการดังกล่าวได้ถูกเลื่อนขยายออกไปจนถึงวันที่ 31 มีนาคม จึงนับได้ว่าโชว์น้ำพุนั้นใช้เพลงนี้ทำการแสดงทั้งหมด 5 ครั้งต่อสัปดาห์ด้วยกัน ในวันที่ 31 มกราคม EXO ได้ปล่อยอัลบั้มเต็มชุดแรกของพวกเขาในประเทศญี่ปุ่น ชื่อว่า COUNTDOWN อัลบั้มได้เปิดตัวบนชาร์ตรายสัปดาห์ด้วยอันดับที่ 1 บนชาร์ตชื่อดังอย่าง ออริคอน โดยสามารถทำยอดขายรวมได้ประมาณ 89,000 ชุด ทำให้ EXO เป็นศิลปินต่างชาติกลุ่มแรกในญี่ปุ่นที่สามารถนำผลงานทั้งซิงเกิลและอัลบั้มเต็มขึ้นสู่อันดับที่ 1 บนชาร์ตรายสัปดาห์ของออริคอนได้ โดยภายใน 10 วันหลังจากเปิดตัวอัลบั้ม ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ COUNTDOWN ก็ได้รับการรับรองอยู่ในระดับ 'ทองคำ' โดยสมาคมอุตสาหกรรมแผ่นเสียงของญี่ปุ่น
ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ได้มีการประกาศว่า EXO ได้เป็นส่วนหนึ่งในการแสดงปิดงาน โอลิมปิกฤดูหนาว 2018 ที่เมืองพย็องชังในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ในฐานะตัวแทนของอุตสาหกรรมเพลงเคป็อปร่วมกับ ซีแอล EXO ได้เปิดฉากการแสดงที่ยอดเยี่ยมด้วยการโชว์เพลงยอดฮิตอย่าง Growl และ Power การแสดงครั้งนี้ได้ยกระดับอุตสาหกรรมวงการเพลงของเคป็อปไปอีกขั้น โดยได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้คนทั่วโลกและถือได้ว่าเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการเพลงเกาหลีที่ไม่มีกลุ่มใดเคยทำมาก่อน และก่อนหน้านั้นเอง แบ็กฮย็อนหนึ่งในสมาชิกวง EXO ได้รับเกียรติให้ร่วมขับร้องเพลงชาติในพิธีเปิดงานต้อนรับคณะกรรมการโอลิมปิกสากล ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ซึ่งวง EXO นั้นก็ได้ทำการแสดงบนเวทีพิเศษในคอนเสิร์ตนับถอยหลัง 100 วัน สู่วันเปิดงาน โอลิมปิกฤดูหนาว 2018 ไปในวันที่ 1 พฤศจิกายน ปี ค.ศ. 2017 ด้วยเช่นกัน
ในเดือนมีนาคมถัดมา โรงกษาปณ์แห่งชาติเกาหลีที่ได้รับผิดชอบในการผลิตเหรียญรางวัลงานแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวได้ออกมาประกาศว่าจะผลิตเหรียญที่ระลึกขึ้นสำหรับ EXO เพื่อเป็นเกียรติให้กับการที่พวกเขาได้ขึ้นเป็นจุดศูนย์กลางของกระแสความนิยมในวงการเพลงเกาหลีใต้ ซึ่ง EXO เป็นศิลปินกลุ่มแรกและกลุ่มเดียวในขณะนี้ที่ได้รับเกียรตินี้จากหน่วยงานของรัฐบาล โดยทางโรงกษาปณ์มีแผนที่จะปล่อยเหรียญที่ระลึกออกมาในช่วงกลางเดือนเมษายน
ในวันที่ 5 ตุลาคม ปี ค.ศ. 2016 ทางบริษัทเอสเอ็มเอนเตอร์เทนเมนต์ได้ประกาศเปิดตัวยูนิตย่อยแรกของเอ็กโซ ซึ่งประกอบไปด้วยสมาชิกสามคนคือ เฉิน, แบ็กฮย็อน และซิ่วหมิน ที่ได้มีผลงานร่วมกันร้องเพลงประกอบละครหลัก เพลง "ฟอร์ยู" ให้กับละครโทรทัศน์ทางช่องเอสบีเอสเรื่อง ข้ามมิติ ลิขิตสวรรค์ ไปก่อนหน้าไม่นานนัก ในวันที่ 24 เดือนเดียวกัน ทางยูนิตก็ได้ถูกเปิดเผยในชื่อที่เรียกว่า เอ็กโซ-ซีบีเอกซ์ ซึ่ง "ซีบีเอกซ์" นั้นมีความหมายจากการนำตัวอักษรภาษาอังกฤษพยัญชนะแรกของทั้งสามคน (Chen, Baekhyun และ Xiumin มาย่อเหลือเป็น CBX โดยสามารถเรียกชื่อในภาษาอังกฤษคือ ซีบีเอกซ์ หรือภาษาเกาหลี เฉินแบ็กชิ)
เอ็กโซ-ซีบีเอกซ์ได้ปรากฏตัวสู่สายตาสาธารณะชนครั้งแรกด้วยเอกซ์เทนเดดเพลย์ชื่อ เฮย์มามา! มิวสิกวิดีโอสำหรับเพลงนำที่มีชื่อเดียวกับเอกซ์เทนเดดเพลย์ ถูกปล่อยออกมาในวันที่ 31 ตุลาคม อัลบั้มของพวกเขาจัดว่าอยู่ในขั้นประสบความสำเร็จโดยสามารถทำยอดขายได้มากที่สุดในหมวดศิลปินยูนิตย่อยในปี 2016 ด้วยตัวเลขกว่า 275,191 ชุดด้วยกัน เอ็กโซ-ซีบีเอกซ์ได้เปิดตัวครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่นในวันที่ 24 พฤษภาคม 2017 ด้วยเอกซ์เทนเดดเพลย์ เกิลส์ ซึ่งก่อนปรากฏตัวในประเทศญี่ปุ่นนั้น พวกเขาได้ปล่อยมิวสิกวิดีโอของเพลงโปรโมตหลัก "คา-ชิง!" มาก่อนแล้วในวันที่ 30 เมษายน 2017 หลังจากปล่อยตัวอัลบั้มออกมา พวกเขาสามารถทำยอดขายได้กว่า 60,000 ชุด และสามารถขึ้นไปสู่ลำดับแรก ๆ ในชาร์ตการจัดอันดับอัลบั้มของแกออนชาร์ตประเทศเกาหลีใต้ได้ด้วยเช่นกัน
ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ของปี ค.ศ. 2013 EXO ได้มีบทบาทในการเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับแบรนด์เสื้อผ้า โคลอนสปอร์ต ทางแบรนด์ได้ตั้งชื่อรุ่นรองเท้าตามชื่อของพวกเขาคือ MOVE-XOนอกจากนี้เองทางวงก็ได้เปิดตัวแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเองที่เรียกว่า Boy Who Cried Wolf (BWCW) ซึ่งเป็นการหุ้นกับแบรนด์เสื้อผ้าสไตล์สตรีทหลากหลายยี่ห้อด้วยกัน โดยร้านค้าของแบรนด์นั้นตั้งอยู่ที่ OUTLAB ถนนชินซาดงคาโรซูกิล อีกทั้ง EXO ก็ได้มีสัญญาเป็นจำนวนสองปีกับแบรนด์เครื่องสำอาง Nature Republic ด้วยเช่นกันปัจจุบันวง EXO ได้ทำหน้าที่เป็นพรีเซนเตอร์ให้กับแบรนด์สินค้ามากมายหลายชนิดไม่ว่าจะเป็น ซัมซุง, แบรนด์เสื้อผ้า SPAO, ไอศกรีมบาสกิ้น รอบบิ้นส์, ชุดนักเรียนไอวีคลับ, แบรนด์แฟชั่น MCM, ขนมเปเปโร, ลอตเต้เวิลด์, ห้างสรรพสินค้าปลอดภาษีลอตเต้ดิวตี้ฟรี, ชาเย็นคังชือฝุ, หมวกแฮทส์ออน, ไก่กุมเน, และรองเท้ากีฬาสเก็ตเชอร์ส
สมาชิกฝั่ง EXO-K ได้รับเกียรติให้เป็นทูตสันถวไมตรีสำหรับงาน Red Cross Youth ในประเทศเกาหลีใต้ในเดือนธันวาคมปี ค.ศ. 2012 EXO และ นักแสดงสาว แพ ดู-นา ได้รับแต่งตั้งให้เป็นทูตสันถวไมตรีร่วมกันอย่างเป็นทางการในงาน Fashion-KODE ปี 2014 ซึ่งมีกระทรวงวัฒนธรรมกีฬาและการท่องเที่ยวของเกาหลีและหน่วยงานจัดงานเทศกาลแฟชั่นของเกาหลีร่วมกันเป็นเจ้าภาพในเดือนกรกฎาคม ปี ค.ศ. 2014 และในเดือนกรกฎาคมปีเดียวกัน บริษัทซัมซุงได้ประกาศให้ EXO เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ในงานแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเยาวชนฤดูร้อน 2014
ในปี ค.ศ. 2015 EXO ได้เข้าร่วมโปรเจกต์ "Smile for U" ซึ่งเป็นการร่วมมือกันระหว่างบริษัท SM เอนเตอร์เทนเมนต์ และ ยูนิเซฟ ที่ได้จัดโครงการการกุศลทางด้านการศึกษาสาขาดนตรีเพื่อเยาวชนในทวีปเอเชีย โดยทางสังกัดได้นำเงินรายได้ส่วนหนึ่งจากอัลบั้มฤดูหนาวชุดที่สอง Sing for You และอัลบั้มเต็มชุดที่สามของพวกเขา EX'ACT บริจาคเพื่อส่วนรวม ทั้งนี้เองสมาชิกที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในโปรเจกต์นี้ก็คือ ไค และ เซฮุน
EXO ได้รับรางวัลมากมายจากทั้งเกาหลีใต้และจีนแผ่นดินใหญ่ พวกเขาชนะรางวัลแรกให้กับวงในรายการเพลงของประเทศเกาหลีใต้ มิวสิกแบงก์ ด้วยซิงเกิลเพลง "Wolf" ในวันที่ 14 มิถุนายน ปี ค.ศ. 2013 ปีถัดมาหลังจากการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของพวกเขา หลังจากนั้น EXO ก็ได้ทำสถิติในการรับรางวัลกว่า 100 รางวัล เป็นศิลปินชายกลุ่มเดียวหลังจากเกิร์ลกรุปรุ่นพี่อย่าง โซนยอชีแดEXO ชนะรางวัลใหญ่จากงานประกาศรางวัลอย่าง 'แดซัง' ทั้งหมด 23 ครั้งด้วยกัน ซึ่งรางวัลที่โดดเด่นนั้นมาจากแดซังที่ขึ้นรับภายในงานประกาศรางวัล Mnet Asian Music Awards ที่ได้ถูกบันทึกใน บันทึกสถิติโลกกินเนสส์บุ๊ก ในเรื่องของ "วงที่ชนะแดซังมากที่สุด" ปี ค.ศ. 2018 โดยรางวัลแดซังนั้นถือว่าเป็นรางวัลที่มีเกียรติและถือเป็นรางวัลใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมวงการเพลงของเกาหลีใต้