ค้นหา
  
Search Engine Optimization Services (SEO)

ปืนเล็กยาวจู่โจม

ปืนเล็กยาวจู่โจม หรือ ปืนไรเฟิลจู่โจม (อังกฤษ: Assault rifle) เป็นปืนเล็กยาว หรือปืนเล็กสั้น (Carbine) ยิงด้วยระบบอัตโนมัติหรือกึ่งอัตโนมัติไปตามวงรอบจนกว่ากระสุนจะหมด ด้วยอัตราการยิงสูง ปืนเล็กยาวจู่โจมจัดเป็นอาวุธประจำกายของทหารในราชการกองทัพ ตามหลักนิยมในการจัดกำลัง 1 หมู่ (Squad) จะมีพลปืนเล็กจำนวน 5 นายและอีก 1 นายใช้ปืนเล็กกลหรือปืนกลเบา เพื่อเพิ่มศักยภาพในการรบ เช่น เอ็ม1 กาแรนด์และเอสวีที-40 ในสงครามโลกครั้งที่สอง ตัวอย่างปืนเล็กยาวจู่โจม เช่น เอเค 47 เอ็ม16 ฟามาส สไตเออร์ เอยูจี ปืนเล็กยาวกึ่งอัตโนมัติ ได้แก่ เออาร์-15

คำว่าปืนเล็กยาวจู่โจมหรือปืนไรเฟิลจู่โจมนั้นเป็นคำแปลมาจากคำในภาษาเยอรมัน คือ Sturmgewehr ("ไรเฟิลพายุ") ที่ตั้งโดยอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ "พายุ"ถูกใช้เป็นการเปรียบเทียบกิริยาการโจมตี อย่างการระดมโจมตีที่เสมือนพายุกระหน่ำ

การแปลความหมายของปืนเล็กยาวจู่โจมหรือปืนไรเฟิลจู่โจมกลายมาเป็นชื่อโดยทั่วไปของอาวุธปืนที่ได้รับออกแบบเหมือนกับเอสทีจี 44 (Sturmgewehr 44, StG 44) ในการจำกัดความนั้น อาวุธปืนจะต้องมีสิ่งต่อไปนี้จึงจะจัดว่าเป็นปืนเล็กยาวจู่โจม

กองทัพสหรัฐฯ นิยามปืนเล็กยาวจู่โจมไว้ว่า"เป็นอาวุธที่สั้น กระชับ มีระบบการยิงที่เลือกได้ ซึ่งใช้กระสุนที่มีอำนาจการยิงระหว่างปืนพกกับปืนเล็กยาว"

ข้อจำกัดหลักตามสหรัฐอเมริกาในคำว่าอาวุธจู่โจม (อังกฤษ: assault weapon) เป็นคำทางกฎหมาย แยกจากคำที่ใช้ทางเทคนิค ใช้เพื่อบรรยายถึงอาวุธปืนกึ่งอัตโนมัติที่มีจุดเด่นเหมือนกับปืนเล็กยาวจู่โจมของกองทัพ มีการนิยามว่าปืนเล็กยาวจู่โจมต้องใช้แมกกาซีนที่ถอดออกได้และเป็นอาวุธปืนกึ่งอัตโนมัติ และดังนี้

การห้ามอาวุธจู่โจมไม่ได้จำกัดอาวุธที่สามารถยิงได้อย่างอัตโนมัติ อย่าง ปืนเล็กยาวจู่โจมและปืนกล อาวุธที่เป็นอัตโนมัติสมบูรณ์ไม่ได้รับผลจากการสั่งห้ามและยังถูกควบคุมอยู่

ตั้งแต่สมัยโบราณ ทหารราบเบาต้องต่อสู้ในรูปขบวนที่กระจายออก ในขณะที่ทหารราบหนักต้องต่อสู้ในรูปขบวนที่แน่นหนา สิ่งนี้ทำให้อาวุธขว้างและหอกถูกแทนที่ด้วยปืนคาบศิลาและดาบปลายปืน เครื่องแบบที่มีสีสด (เยอรมัน=น้ำเงิน รัสเซีย=เขียว อังกฤษ=แดง ฝรั่งเศส=ขาว) กลายมาเป็นพื้นฐานของหน่วยที่ต้องทำงานร่วมกันเพื่อให้มองเห็นได้ท่ามกลางกลุ่มควันจากดินปืน ปืนคาบศิลาไร้ความแม่นยำในระยะไกลตั้งแต่ 50-100 เมตรและบรรจุกระสุนได้ช้า ซึ่งนำไปสู่รูปขบวนแบบหลายแถวเพื่อเพิ่มอำนาจการยิงและทำให้มั่นใจว่าส่วนหนึ่งของหน่วยจะต้องเตรียมพร้อมสำหรับการยิงเสมอ รูปขบวนที่แน่นยังช่วยให้นายทหารควบคุมคนของเขาได้ขณะทำการต่อสู่

การนำปืนคาบศิลาที่ภายในลำกล้องเป็นเกลียวนั้นเริ่มในทศวรรษที่ 19 ได้เพิ่มระยะและอำนาจการยิงของปืน และทำการรบจากรูปขบวนที่สร้างการนองเลือด อย่างที่เห็นได้ในสงครามกลางเมืองอเมริกัน นักวางแผนยุทธการได้ให้การเน้นสำคัญไปที่อาวุธปืนมากขึ้นให้มีความแม่นยำ ไว้ใจได้ และอัตราการยิงที่ดี ทหารม้าเลิกใช้ม้าและลงมาใช้ปืนเล็กยาวแทน

หลังจากสงครามกลางเมืองอเมริกันการพัฒนาเพิ่มอย่างการใช้ปืนเล็กยาวที่ใช้แมกกาซีน ปืนกล และระเบิดแรงสูงจากปืนใหญ่ได้นำจุดจบมาสู่รูปขบวนแบบหนาแน่นในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง มันหมายถึงในทางปฏิบัติแล้วทหารราบไม่จำเป็นต้องปะทะกับศัตรูจากระยะไกลในสมรภูมิอีกต่อไป ปืนเล็กยาวแบบลูกเลื่อนพลังสูงในตอนนั้นไม่ต้องใช้ในระยะประชิดอีกแล้วในสงครามปัจจุบัน ผู้นำทางทหารและบริษัทผู้ผลิตอาวุธได้เริ่มทำอาวุธใหม่เพื่อสงครามยุคใหม่

อาวุธปืนอัตโนมัติต่อไปนี้คาดว่าใช้ก่อนที่จะมีปลอกกระสุนปืนเล็กยาว พลังงานเคลื่อนที่จะอยู่ระหว่าง 3,000-5,000 จูล ความเร็วที่ 750-900 เมตรต่อวินาที และลูกกระสุนหนัก 9-13 กรัม

การใช้งานของสิ่งที่เกิดก่อนปืนเล็กยาวจู่โจมคือเฟเดรอฟ อัฟโตมัทของรัสเซียในปีพ.ศ. 2458 และกระสุนปลอกขนาด 6.5x50 ม.ม.ของญี่ปุ่น แต่ของรัสเซียนั้นถูกใช้ในจำนวนที่น้อยมาก และมันยังไม่ใช่ปืนเล็กยาวจู่โจมจริงๆ ตามหลักปัจจุบันเพราะว่ามันไม่ใช้กระสุนแบบกลาง

ในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ปืนโชแชท (Chauchat) ของฝรั่งเศสได้ปรากฏตัวขึ้น ปืนกลขนาดเบาและบรรพบุรุษของปืนเล็กยาวจู่โจมในปัจจุบัน มันถูกผลิตออกมาในจำนวนที่มาก (ประมาณ 250,000 กระบอก) เช่นเดียวกับปืนเล็กยาวจู่โจมในเวลาต่อมาคือมันสามารถยิงได้ทั้งแบบทีละนัดและแบบอัตโนมัติ และใช่แมกกาซีนและยังมีด้ามจับปืนพก เมื่อเทียบกับปืนกลขนาดเบาแบบอื่นในช่วงเวลานั้นโชแชทนั้นเบามากด้วยน้ำหนัก 9 กิโลกรัมแต่มันยังอุ้ยอ้ายในการต่อสู้ระยะใกล้และมีแรงถีบที่มากเกินที่จะควบคุมเมื่อยิงแบบอัตโนมัติเนื่องมาจากการใช้กระสุนที่ทรงพลังขนาด 8 ม.ม.หรือ .30-06 สปนิงฟีลด์ของสหรัฐฯ และกระสุนคาลิเบอร์ขนาด 7.92 หรือ 7.65 ถึงแม้ว่าจะมีข้อบกพร่องที่ร้ายแรงมันก็ยังสำคัญรบของทหารราบต่อทหารเยอรมันที่หมดหวังผู้ที่ไม่มีอาวุธที่เทียบเท่ากับปืนโชแชท พวกเยอรมันจึงเริ่มใช้อาวุธที่ยึดได้ ในขณะที่มันออกแบบมาเพื่อใช้กระสุนคาลิเบอร์เต็มขนาดและดังนั้นก็ไม่ได้ใช้ปลอกกระสุนกลาง มันเป็นอาวุธกลางระหว่างปืนกลมือและปืนกลขนาดหนักอย่างปืนเลวิส

ริเบย์รอล 1918 (Ribeyrolle 1918) อาจเป็นอาวุธขนาดกะทัดรัดที่เลือกการยิงได้แบบแรกโดยใช้กระสุนกลางที่ในปัจจุบันนิยามว่าเป็นปืนเล็กยาวจู่โจม ปลอกกระสุนมีพื้นฐานมาจากปลอก .351 วินเชสเตอร์และแคบจนเป็นกระสุน 8 ม.ม.เลเบล มันปรากฏตัวครั้งแรกในกองทัพเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2461 มันมีชื่อเป็นทางการว่าปืนคาร์บินกล Carabine Mitrailleuse (อังกฤษ: machine carbine; เยอรมัน: Maschinenkarabiner) มันถูกยกเลิกในปีพ.ศ. 2464 เพราะว่ามันไม่แม่นยำพอในระยะไกลเกิน 400 เมตร

ปืนเล็กกล เอ็ม 1918 บราวน์นิงหรือบาร์ (อังกฤษ: M1918 Browning Automatic Rifle, BAR) ได้เลียนแบบความคิดของโชแชทแต่ไม่ได้ผลิตออกมาหรือใช้ในจำนวนที่มากจนกระทั่งจบสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง การพัฒนาต่อมาได้เพิ่มลำกล้องและไฟพ็อคที่หนักขึ้นซึ่งทำให้มันเหมือนกับปืนกลขนาดเบาหรืออาวุธอัตโนมัติประจำหมู่ในปัจจุบัน บาร์รุ่นนี้ถูกผลิตออกมาจำนวนมาก ใช้อย่างกว้างขวาง และทำหน้าที่ได้ดีในทศวรรษที่ 1960 ในกองทัพของสหรัฐฯ และชาติอื่นๆ

ในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ปืนกลมือได้เข้ามามีบทบาทเช่นกัน อย่างวิลลาร์ เพอโรซา เบเรทต้า โมเดล 1918 และเอ็มพี18 อาวุธเหล่านี้ได้มีองค์ประกอบเหมือนกันกับปืนเล็กยาวจู่โจม แต่พวกมันใช้กระสุนขนาด 9x19 ม.ม.ของของปืนพก ผู้สร้างปืนกลมือทอมป์สันเดิมทีตั้งใจที่จะใช้กระสุนของปืนเล็กยาว อย่างไรก็ตามระบบกลไกที่สามารถรับมือพลังของพวกมันได้นั้นไม่มีและกระสุน .45 เอซีพีจึงถูกเลือกมาใช้แทน อาวุธปืนเหล่านี้ถูกจัดว่าเป็นส่วนหนึ่งในชั้นของปืนกลมือ แต่เป็นขั้นตอนที่สำคัญในการพัฒนาปืนเล็กยาว


 

 

รับจำนำรถยนต์ รับจำนำรถจอด

แรง (ฟิสิกส์) ความยาว การเคลื่อนที่ ทฤษฎีเคออส กลศาสตร์แบบลากรางช์ เอนริโก แฟร์มี สมมาตรยิ่งยวด CERN Large Hadron Collider ไอน์สไตน์ ทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป กาลิเลโอ ฟิสิกส์อนุภาค วิศวกรรมวัสดุ เซมิคอนดักเตอร์ นาโนเมตร วัสดุนาโน วัสดุฉลาด วัสดุเชิงก้าวหน้า วัสดุชีวภาพ พอลิเมอร์ เซรามิก สเปกโตรสโกปี อุณหเคมี ไฟฟ้าเคมี เคมีเชิงฟิสิกส์ โลหะอินทรีย์เคมี เคมีพอลิเมอร์ เคมีนิวเคลียร์ ชีววิทยาโมเลกุล เคมีเวชภัณฑ์ เคมีดาราศาสตร์ เคมีไคเนติกส์ สารประกอบอนินทรีย์ สารประกอบเคมี สารประกอบ John Dalton ทฤษฎีโฟลจิสตัน อ็องตวน ลาวัวซีเย Robert Boyle ปฏิกิริยาเคมี รายชื่อคณะวิทยาศาสตร์ในประเทศไทย เคมีสิ่งแวดล้อม วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม Social psychology วิทยาศาสตร์สังคม เทคนิคการแพทย์ เวชศาสตร์ พยาธิวิทยา เนื้องอกวิทยา ทัศนมาตรศาสตร์ Pharmacy บรรณารักษศาสตร์และสารนิเทศศาสตร์ วิทยาศาสตร์พุทธิปัญญา สารสนเทศศาสตร์ วิทยาการสารสนเทศ สัตววิทยา วิทยาไวรัส ประสาทวิทยาศาสตร์ อณูชีววิทยา จุลชีววิทยา วิทยาภูมิคุ้มกัน มีนวิทยา มิญชวิทยา กีฏวิทยา Developmental biology วิทยาเซลล์ ชีววิทยาของเซลล์ วิทยาแผ่นดินไหว ชลธารวิทยา สมุทรศาสตร์ เคมีความร้อน เคมีไฟฟ้า เคมีการคำนวณ เคมีวิเคราะห์ Particle physics พลศาสตร์ของไหล พลศาสตร์ สวนศาสตร์ ฟิสิกส์เชิงทฤษฎี โป๊ป ความเรียง เรอเน เดส์การตส์ การสังเกต การทดลอง ฟรานซิส เบคอน กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ความรู้เชิงประจักษ์ คณิตตรรกศาสตร์ เครือข่ายคอมพิวเตอร์เพื่อโรงเรียนไทย ไม้บรรทัด กระดูกนาเปียร์ ลูกคิด การแข่งขันคณิตศาสตร์ รางวัลอาเบล เหรียญฟิลด์ส ปัญหาของฮิลแบร์ท กลุ่มความซับซ้อน พี และ เอ็นพี ข้อความคาดการณ์ของปวงกาเร สมมติฐานความต่อเนื่อง

 

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
38
39
40
41
42
43
44
45
46
47
48
49
50
51
52
53
54
55
56
57
58
59
60
61
62
63
64
65
66
67
68
69
70
71
72
73
74
75
76
77
78
79
80
81
82
83
84
85
86
87
88
89
90
91
92
93
94
95
96
97
98
99
100
101
102
103
104
105
106
107
108
109
110
111
112
113
114
115
116
117
118
119
120
121
122
123
124
125
126
127
128
129
130
131
132
133
134
135
136
137
138
139
140
141
142
143
144
145
146
147
148
149
150
151
152
153
154
155
156
157
158
159
160
161
162
163
164
165
166
167
168
169
170
171
172
173
174
175
176
177
178
179
180
181
182
183
184
185
186
187
188
189
190
191
192
193
194
195
196
197
198
199
200
201
202
203
204
205
206
207
208
209
210
211
212
213
214
215
216
217
218
219
220
221
222
223
224
225
226
227
228
229
230
231
232
233
234
235
236
237
238
239
240
241
242
จำนำรถราชบุรี รถยนต์ เงินด่วน รับจำนำรถยนต์ จำนำรถยนต์ จำนำรถ 24187